
L’Essentiel วางจำหน่ายช่วงฤดูหนาวในปี 2011 เป็นนำ้หอมที่แตกยอดออกมาจากตัวดั้งเดิมในปี 2009 และ L `Extreme ในปี 2010 โดยเพิ่มความอ่อนหวาน ให้รู้สึกถึงเสน่ห์ดึงดูดมากขึ้นด้วยแนวกลิ่น oriental – floral
สารภาพว่าเราเองก็ยังไม่เคยลองกลิ่นในตระกูลนี้มาก่อนค่ะ ตอนที่ตัดสินใจซื้อคือร้านประจำเอามาขายพอดี (หลงรูปขวดอีกตามเคย…อาการนี้แก้ไม่หายเสียทีนะคะ) เลยขออนุญาตรีวิวตัวนี้โดยที่ไม่ได้เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนๆนะคะ

ตัวขวดยังคงเหมือนรุ่นก่อนๆแต่ต่างกันที่สีสัน จากคอขวดสีดำอมม่วง ไล่ระดับมาจนถึงสีม่วงอ่อนๆอย่างสวยงาม ขวดแก้วตัดเหลี่ยมเหมือนอัญมณีที่ถูกเจียระไนมาอย่างงดงาม ด้วยขวดขนาด 50 ml. จับได้อย่างถนัดมือพอดีค่ะ
ขวดนี้เป็นครั้งแรกที่เราซื้อนำ้หอมแบบ Blind buy ในแนวกลิ่นที่ไม่เคยทดลองมาก่อน (Leather) แทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะเป็นแบบไหน (ยิ่งกว่าลุ้นหวยอีกค่ะ 0 _ 0 )
กลิ่นเปิดขึ้นมาจากแบล็คเบอรีต่างจากผลแบล็คเบอร์รี่สดที่เราเคยชิมมาก่อน กลิ่นของขวดนี้เป็นแบบเปรี้ยวนำแต่เจือขมปลายคอเล็กน้อยด้วยกลิ่นของไวนิล (ผ้าใบพลาสติก) แต่กลิ่นก็ไม่ได้ปล่อยให้เราฉงนสงสัยมากมาย เพราะ สามสาว (ไอริส,กุหลาบดามัสก์ และมะลิลา กลิ่นดอกไม้ก็เข้ามาทำให้นิ่มนวลและอ่อนหวานมากขึ้น แล้วปิดท้ายด้วยความหรูหราจากผ้ากำมะหยี่และถั่วตองกา พร้อมกลิ่นติดผิวจากมักส์
ขวดนี้เราซื้อมาตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงธันวาคม พอลองใช้มาเรื่อยๆ เราพบว่ากลิ่นกระจายตัวได้หอมหวานมากในช่วงที่อากาศเย็นค่ะ แต่ถ้าใช้ในช่วงที่อากาศร้อนชื้น กลิ่นจะชวนเวียนหัวและจางไว ทิ้งท้ายไว้แต่กลิ่นเหม็นเปรี้ยวค่ะ พอฉีดในช่วงที่เปิดแอร์เย็นๆ รู้สึกเหมือนกำลังนั่งกินผลเบอร์รี่บนโซฟาหนังสุดคลาสสิคยังไงยังงั้นเชียวค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
Perfume Pyramid
Top Notes : Blackberry, Vinyl, Pink Pepper
Middle Notes : Iris, Jasmine, Rose
Base Notes : Musk, Tonka Bean, Suede
ความคงทน อยู่บนผิวเรา 6-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล)
การกระจายกลิ่น บริเวณกว้างในอากาศเย็น