วันก่อนเราเพิ่งเปิดกล่องน้ำหอมของคนไทยไป หลายๆคนก็ถามถึงน้ำหอมตัวอื่นๆ โดยโจทย์ที่ว่า ใช้ง่าย ไปเรียนได้ ไปทำงานก็ดี ออกเดทก็แจ๋ว หาซื้อไม่ยาก ราคาเคาท์เตอร์ไม่บาดเจ็บเท่าไหร่ เลยเอามารีวิวให้เพื่อนๆได้ลองประกอบการตัดสินใจนะคะ

Elizabeth Arden คือบริษัทเครื่องสำอางสัญชาติอเมริกัน ที่มีอายุยาวนานมาก….กก ตั้งแต่ปี 1910 นับจริงๆก็ร้อยกว่าปีแล้วนะคะ แต่ก็ยังคงมีชื่อเสียงมาเรื่อยๆ น้ำหอมขวดแรกของเค้า วางจำหน่ายในปี 1934 คือเจ้าตัว Blue Grass แต่กลิ่นที่สร้างชื่อและเป็นตำนานจนถึงบัดนี้คือ Red Door ที่วางขายในปี 1989 ซึ่งเป็นอีกกลิ่นนึงที่เราชอบมาก แต่ยังไม่ได้ซื้อเข้าตู้สักที เพราะหาราคาที่ถูกใจยังไม่ได้ เราเคยใช้รุ่น Red Door Velvet ที่มารู้เอาทีหลังว่าเป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น ยังเศร้าจนถึงบัดนี้ไม่หายเลยค่ะ
สิ่งที่เราประทับใจยี่ห้อนี้ คือ ราคา ที่ไม่ได้แพงจนเกินไป ถึงแม้ว่าจะบวกภาษีแล้ว ก็ยังรับไหว ยิ่งถ้าได้ซื้อจากอเมริกาแล้ว ยิ่งถูกเข้าไปอีก น่าอิจฉาคนที่อยู่เมืองนอกนะคะ
กลับเข้าสู่ซีรีย์ Untold ดีกว่าค่ะ เจ้าตัวนี้เป็นน้ำหอมรุ่นล่าสุดของอาร์เดน ในตระกูลนี้มีทั้งหมด 4 ตัวนะคะ แต่เรามีแค่ 3 ตัว เนื่องจากว่า ในเมืองไทยยังไม่มีจำหน่าย และเราหาที่เมืองนอกยังไม่ได้น่ะค่ะ
มาที่ต้นตำหรับเลยดีกว่า กับ Untold (Original) ที่เปิดตัวในปี 2013

จากการปรุงกลิ่นของ Clement Gavarry

ซึ่งปรุงน้ำหอมที่โด่งดังติดตลาดมาอย่างมากมาย เช่น Prada Eau de Parfum (2004, with Carlos Benaim & Max Gavarry), Sarah Jessica Parker Lovely (2005, with Laurent Le Guernec),
นิยามของน้ำหอมตัวนี้ ทาง Elizabeth Arden กล่าวไว้ว่า “A luxurious and modern floral composition, UNTOLD celebrates the sophistication and intrigue of the multi-faceted modern woman. From her vibrant optimism and refined femininity to her mysterious aura and magnetic sensuality, UNTOLD takes you on a journey through the many facets that together, make her genuinely beautiful. With its sparkling and fruity introduction, radiant floral heart and mysterious addictive warmth, UNTOLD captures all that a woman is.”
กล่าวสรุปในนิยามของเราเอง (แปลแบบง่อยๆ) Untold สื่อความหมายถึงหญิงสาวสมัยใหม่ที่มีทั้งความหรูหรา และเสน่ห์ดึงดูดใจ มองโลกในแง่ดี ซึ่งมีทั้งความลึกลับซับซ้อนและพร้อมด้วยแรงดึงดูดในตัวเอง สรุปง่ายๆ มีครบทุกด้าน แต่ไม่เปิดเผยทั้งหมด ต้องลองค้นหาด้วยตัวเองค่ะ
อืม..จะซื้อก็เพราะคำบรรยายเนี่ยแหละ ว่าต่อเลย

รายละเอียดกลิ่นตามนี้ค่ะ
Top Note : Black Currant LMR*, Bergamot,Pink Pepper,Pear
Middle Note : Gardenia, Peony, Jasmine LMR*
Base Note: Sandalwood, Patchouli Heart LMR*, Musk, Amber.
* LMR (International Flovors & Fragrances Inc’s inhouse 100% pure Naturals facility based in Grasse, France, ofering an exclusive collection of the highest quality natural ingradients gathered from all over the world) พูดง่ายๆ LMR คือบริษัทที่ผลิตหัวนำหอม 100% จากธรรมชาติด้วยส่วนผสมชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลกค่ะ

จากจมูกของเรา ครั้งแรกที่ดม เราได้กลิ่นของลูกแพร์ฉ่ำๆและมะกรูดที่ให้ความสดชื่นในครั้งแรก แต่ไม่ได้กลิ่นของพริกไทยนะคะ พอทิ้งไว้แค่ห้สนาที กลิ่นหอมๆของมะลิกับพุดซ้อนก็เริ่มทำงานแล้ว ช่วงกลางนี้กลิ่นจะยาวนานหน่อยค่ะ หอมดอกไม้ขาวนานเลย และตบท้ายด้วยเบสโน้ตยอดนิยม Patchouli, Amber and Musk ซึ่งหาได้ทั่วไปจากน้ำหอมกลิ่นอื่นๆนะคะ

ที่เราใช้มา กลิ่นนี้อยู่บนผิวเราได้ 4-6 ชั่วโมงเป็น EDP สเปรย์มากยิ่งอยู่นาน แต่ถ้ากลัวจมูกระบม ใช้เติมเอาระหว่างวันจะดีกว่าค่ะ
กลิ่นนี้สาวทำงาน สาววัยมหาวิทยาลัย ใช้ได้หมดเลยนะคะ ดูหวานละมุน แอบเซ็กซี่น้อยๆ กลิ่นสุภาพ ใช้ง่ายค่ะ
จากที่เปิดตัว Untold ไปแล้ว ในปี 2014 ช่วงเดือนเมษายน นางก็มีรุ่นน้องคลานตามกันออกมา จากผู้ปรุงคนเดียวกัน มาในครั้งนี้ยังคงคอนเซปท์เดิมที่ต้องการให้โทนกลิ่นมาในแนวหอมกระชากใจ แต่ว่ายังคงเป็นธรรมชาติ นุ่มนวล และสดใสมากขึ้น พูดง่ายๆกว่า อ่อนวัยมากขึ้นค่ะ

Untold Eau Legere

Top Note : Sparkling Green Apple, Grapefruit, Blackcurrant LMR, Pink Pepper
Middle Note : Purple Freesia, Gardenia, Jasmine , Pink Pepper
Base Note : Sandalwood, Amber, Patchouli Heart LMR, Musk
จากกลิ่นเดิมที่บางคนอาจจะว่า หวานไป หนักไป กลิ่นใหม่นี้เลยเพิ่มความสดใสให้มากขึ้น ด้วยกลิ่นของแอปเปิ้ลเขียว แถมกลิ่นของผลไม้ที่มกกว่าเดิม และทอนความหวานของดอกไม้ขาวออกไป ใช้หน้าร้อนเราว่าโอเคเลยนะคะ แต่ด้วยความที่เค้าเป็น EDT กลิ่นเลยไม่ค่อยจะทนเท่าไหร่ ต้องอาศัยเติมระหว่างวันนะคะ

กลิ่นที่สดใสขึ้น เราว่าเหมาะกับงานกลางแจ้ง ใช้ได้ตั้งแต่สาวๆวัยรุ่น ไปถึงถึงวัยผู้ใหญ่ที่ชอบกลิ่นใสๆน่ะค่ะ

จากสองรุ่นข้างบน หลายๆคนรวมถึงเรากลับยังไม่สาแก่ใจ เค้าก็เลยออกตัวใหม่ล่าสุดที่เป็นรุ่นเข้มข้นที่สุดออกมาค่ะ

Untold Absolu

Top Note : Red Plum, Ginger Extract LMR, Black Raspberry, Italian Bergamot
Middle Note : Egyptian Jasmine Absolate LMR, Rose WAter Essentail LMR, French Nascissus Absolute LMR
Base Note : Bazillian Tonka Absolute, Cashmere Woods, Tahitian Vanilla Bourbon Absolute, Benzoin Resinoid
ในความเห็นเรา Absolu คือพี่สาวคนโตของตระกูล Untold ที่มาดนิ่ง พูดน้อย ต่อยหนัก เฉือนเบาๆ แต่แฝงเสน่ห์ไว้อย่างร้ายกาจเลยทีเดียว และกลิ่นนี้ เป็นกลิ่นที่เราชอบมากที่สุดในตระกูลเลยค่ะ

จากตัวก่อนๆมาถึงตัว Absolu เค้าตัดพริกไทยสีชมพูออกไป แล้วใส่ขิงเข้ามาแทน ซึ่งทำให้กลิ่นออกหอมจัดจ้านและเข้มข้นมากขึ้น และในส่วนของกลิ่นผลไม้ ลูกพลัมก็ส่งเสริมให้กลิ่นหวานมากขึ้นไปอีก แต่ช้าก่อน ความหวานมันยังไม่จบเพียงเท่านี้ ในกลิ่นกลางนั้นยังมีดอก Narcissus หรือเจ้าดอกสายน้ำผึ้ง พร้อมทั้งกลิ่นท้ายที่เติมถั่วตองกาและวานิลลาเข้ามา ทำให้กลิ่นหรูหราขึ้นได้อย่างไม่มีที่ติเลยค่ะ

ตัวนี้เป็น EDP ที่เพิ่มความเข้มข้น สีจะออกเหลืองเข้มกว่ารุ่นอื่นๆนะคะ ส่วนความติดทน สำหรับเราได้ถึง 6-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว หมาะสำหรับงานทางการ ออกเดทและยามค่ำคืนค่ะ

ตัวขวดนั้น ทั้งสามกลิ่นแทบจะไม่แตกต่างอะไรเลยค่ะ ต่างกันแค่ด้านข้างขวดที่มีสลักชื่อไว้สำหรับแต่ละกลิ่น แอบตินิดนึงว่าตัวเหล็กคาดข้างขวดยังมีบางมุมที่คม เวลาจับต้องระวังนิดนึงนะคะ แต่รอบๆขวดเป็นเหมือนคริสตัล เล่นแสง ถ้าอยู่ในไฟสีเหลืองนี่ สวยมากเลยทีเดียว

สนนราคาตัว Eau Legere จะถูกสุด ประมาณสองพันกว่าๆ ตัวต้นตำหรับอยู่ที่สองพันปลายๆ และตัว Absolu อยู่ที่สามพันกว่าบาทค่ะ (จำไม่ได้แน่นอน เพราะเราซื้อที่งานเซลล์เค้าไม่มีใบเสร็จให้ ซึ่งก็จำราคาตอนที่ซื้อมาไม่ได้อีกเหมือนกันค่ะ)
ตอนจ่ายเงินนี่ซีดเลยทีเดียว แต่ทำยังไงได้ ก็เค้าเลือกไม่ถูกว่าจะเอาขวดไหนนี่นา
โดยรวมแล้ว Untold เป็นไลน์น้ำหอมที่ใช้ง่าย ร่วมสมัย ราคาไม่แพงเกินไป วัยรุ่นใช้ได้ วัยทำงานใช้ดี แต่ติดนิดนึง ตรงที่กลิ่นยังไม่เป็นเอกลักษณ์ ดมคร้งแรกยังไม่สามารถทำให้เรานึกถึงชื่อได้ทันทีเหมือนกันตัวอื่นๆ เช่น Narciso Rodriguez , Chanel,Elie Saab หรือแม้กระทั่ง Red Door ที่โด่งดังค่ะ แต่พูดตรงๆ ยอมซื้อเพราะขวดเลยนะ สวยจริงจัง
ขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ เดี๋ยวขอไปหาหัวข้อสำหรับรีวิวครั้งต่อไปก่อนนะคะ