Chanel N°5 EDP Basic Information :
ปีที่วางจำหน่าย : 1921
Perfumer : Ernest Beaux
Fragrance Notes :

Top Notes : Aldehydes, Bergamot, Lemon, Neroli
Middle Notes : Jasmine, May rose, Ylang ylang, Iris, Lily of the valley
Base notes : Sandalwood, Cedarwood, Oakmoss, Vetiver, Amber, Patchouli, Musk, Vanilla, Civet, Ambergris

ถ้าให้เอ่ยชื่อนำ้หอมกลิ่นคลาสสิค อมตะ เราว่า Chanel N°5 จะต้องอยู่ในชื่อลำดับต้นๆเเน่นอนค่ะ ด้วยความเป็นตำนานของกลิ่นเอง บวกกับการโฆษณาของทางแบรนด์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โฆษณามีให้เห็นเรื่อยๆ และอยู่ในกระเเสตลอดเวลาค่ะ อีกทั้งพรีเซนเตอร์ก็เป็นดาราระดับแนวหน้า ไม่ว่าจะเป็น มาริลีน มอนโรว์ , นิโคล คิดแมน หรือแม้กระทั่ง แบรด พิทท์

เราว่าหลายๆคนคงจะรู้ตำนานของกลิ่นนี้เป็นอย่างดี ยังไงขอเล่าอีกรอบแบบย่อๆ เผื่อบางท่านอาจจะยังไม่รู้นะคะ

กลิ่นนี้นับว่าเป็นนำ้หอมที่ใช้สารสังเคราะห์อัลดีไฮน์ (aldehyde) เป็นตัวแรกของโลก และเหตุบังเอิญจากที่ผู้ปรุงทำเจ้าสารนี้หกลงไปในช่วงระหว่างปรุงด้วยจำนวนที่เยอะกว่าที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ดี เมื่อนำมาให้มาดมัวแซลชาแนลทดสอบกลิ่น เจ้าขวดนี้กลับได้รับเลือกมาเป็นขวดแรก และชื่อนี้มาจากลำดับที่นำมาวางเรียงรายกันในครั้งนั้นค่ะ

หลังจากที่วางขาย ด้วยความที่เป็นกลิ่นที่ต่างออกไปจากกลิ่นอื่นๆ ที่วางขายในขณะนั้น ถึงขนาดที่ว่า สาวๆต่างก็เรียกร้องให้แฟนหนุ่มซื้อชาแนลกลิ่นนี้ให้เป็นของขวัญเท่านั้น เรียกได้ว่าขายดิบขายดีมากมายก่ายกองเลยทีเดียว

มาถึงเรื่องของกลิ่นบ้าง เปิดมากับอัลดีไฮน์พร้อมมะกรูด เราว่าเป็นกลิ่นเปิดที่ค่อนข้างเสียงดัง ด้วยความฟุ้งและทรงพลัง ราวกับว่าถูกเรียกให้หันกลับมาแบบทันทีทันใดเลยค่ะ หลังจากนั้นจะเริ่มได้กลิ่นกุหลาบกลีบแดงหนา พร้อมมะลิแบบเข้มข้น และกระดังงา ที่ชูความเซกซี่มาอย่างเต็มที่ ซึ่งความเซกซี่ในระดับของชาแนล ไม่ได้เน้นว่ามาแบบโฉ่งฉ่างแบบนำ้หอมสมัยใหม่แบบที่ได้วางขายกัน ณ ปัจจุบันนี้นะคะ แต่ว่ามาแบบชุดเข้ารูป แนบเนื้อสีดำ เน้นให้จินตนาการกันเอาเอง ซึ่งในช่วงเบสของนำ้หอมนี้แหละค่ะ กลิ่นของชะมด ยางไม้ มาแบบกรุ่นๆ แบบค่อยๆเพิ่มความเร่าร้อนขึ้นทีละนิด เหมือนกลิ่นเหงื่อบางๆ ชวนให้ดมซำ้หลายๆครั้งค่ะ

ความฟุ้ง เราจัดว่าอยู่ในระดับค่อนข้างมาก ถ้าอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ จะเหมือนสบู่หอมยุคเก่า แต่ถ้าอยู่ในห้องอากาศธรรมชาติแบบไทยๆเรานั้น จะมีติดกลิ่นสาบบ้างเล็กน้อย ส่วนความทน ของเราได้ 8 – 10 ชั่วโมง ในห้องแอร์ค่ะ

กลิ่นนี้ มาถึงสมัยนี้ เราว่าใช้ได้ทุกเพศแล้วล่ะค่ะ เพราะไม่ได้เป็นหญิงสาวจ๋าตามที่นำ้หอมสมัยใหม่กำหนดตามเทรนด์ มาดแมน มาดขรึม ใส่ก็ยังดูดีนะเออ

หมายเหตุ : กลิ่นที่ได้และรีวิวนั้นมาจากประสบการณ์ส่วนบุคคล ซึ่งแต่ละคนจะมีประสาทสัมผัสที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความทรงจำ และสภาพแวดล้อม ไปจนถึงบุคลิกของผู้ใช้งานแต่ละบุคคลค่ะ