Basic Information :
ปีที่วางจำหน่าย : 2010
Collection : XJ17/17
Fragrance Notes :
Top Notes : Bergamot, Lemon, Red berries, Freesia
Middle Notes : Turkish rose Absolute, Sambac jasmine, Ylang ylang, Iris, Lily of the valley
Base Notes : Patchouli, Vetiver, Sandalwood, Egyptian Rosewood, Vanilla, Amber, Musk

ถ้าเอ่ยถึงแบรนด์นำ้หอมราคาแพง เราว่า Xerjoff คงมาลำดับต้นๆ ด้วยราคาประมาณ 2-3 เท่า ของนำ้หอมทั่วๆไป แต่ด้วยส่วนผสมชั้นเลิศจากนำ้มันหอมระเหยกุหลาบตุรกี และนำ้มันหอมระเหยมะลิ แค่สองตัวนี้ ราคาก็นำหน้าไปไกลแล้วล่ะค่ะ เลยกลายว่าด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง (50ML 380 EUR) เราเลยหาได้แต่ตัวหลอดทดลองมาเล่าเรื่องกลิ่นนะคะ
สัมผัสแรกที่โชยออกมาจากกลิ่นกุหลาบเคล้าคลอมากับผลเบอร์รี่สุกฉำ่สีแดง แซมด้วยกลิ่นเปรี้ยวจางๆของมะนาวช่วยปลุกเร้าความสดชื่น กลิ่นนี้อยู่ค่อนข้างยาวไปราวๆ 2-3 ชั่วโมง ถึงจะเริ่มได้กลิ่นของมะลิและกระดังงา พอมาถึงช่วงนี้กลิ่นจะเริ่มกลายร่างจากความสดใส มาเป็นความหวานละมุนจากกลีบดอกไม้ เหมือนกับเดินเข้าร้านขายดอกไม้ แอร์เย็นๆ กลิ่นดอกไม้ลอยมาหอมๆ เบาๆรอบตัวเลยค่ะ
หลังจากผ่านช่วงดอกไม้ไปได้ 5-6 ชั่วโมงแล้ว จะเริ่มได้กลิ่นคล้ายดอกไม้แห้ง เราว่ามาจากกลิ่นของช่วงกลางที่เริ่มจาง แล้วได้กลิ่นของหญ้าแฝก และไม้หอม ที่เริ่มเด่นขึ้นมา พ่วงด้วยกลิ่นหวานจากวานิลลาที่มาแนวติดขมเล็กน้อย ช่วยเสริมความอ่อนหวานให้กลิ่นมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีกลิ่นเบอร์รี่เติมความใสได้ตลอดค่ะ
กลิ่นนี้ฟุ้งแบบออร่ารอบๆตัว แบบกลิ่นลอยโชยมา เป็นกลิ่นที่เด่นในโทนกุหลาบผสมเบอร์รี่ ซึ่งลดทอนวัยของผู้ใช้ได้พอสมควรเลย และค่อนไปทางสาวหวาน สดใส แฝงด้วยความไว้ตัวค่ะ กลิ่นค่อนข้างสุภาพ สามารถใส่ไปเรียน ไปทำงานได้ แต่อาจจะสุภาพไปสำหรับออกเที่ยวยามราตรีนะคะ ความทนบนผิวเราได้ราวๆ 8 ชั่วโมงค่ะ
โดยรวมเเล้ว ถ้าราคาไม่ใช่เรื่องใหญ่ เราว่าเป็นอีกกลิ่นที่ใช้งานง่าย และใช้ได้เรื่อยๆ และเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับใช้เป็นกลิ่นประจำตัว (Signature scent) ได้ เพียงแต่ว่าจะไม่ใช่กลิ่นที่ติดตลาด หรือกลิ่นติดจมูกเหมือนกลิ่นดังๆตามท้องตลาดค่ะ

หมายเหตุ : กลิ่นที่ได้และรีวิวนั้นมาจากประสบการณ์ส่วนบุคคล ซึ่งแต่ละคนจะมีประสาทสัมผัสที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความทรงจำ และสภาพแวดล้อม ไปจนถึงบุคลิกของผู้ใช้งานแต่ละบุคคลค่ะ