
ความเป็นมา
Hermes แบรนด์เครื่องหนังอันโด่งดัง และ Jean-Claude Ellena ผู้ปรุงน้ำหอมประจำแบรนด์ กล่าวสำหรับกลิ่นนี้ว่า “ฉันต้องการให้กลิ่นนี้ แสดงถึงความเป็นผู้หญิง ด้วยกลิ่นของดอกไม้ และดอกไม้” จึงกลายเป็นกลิ่นของหญิงงามผู้เฉิดฉาย และมีเสน่ห์แตกต่างไป ในแต่ละบุคคลค่ะ
Fragrance Notes
Top Notes: Grapefruit, Lemon, Watery Notes
Middle Notes: Gardenia, Sweet Pea, Green Notes, White Flowers
Base Notes : Musk, Woody Notes
กลิ่นเป็นอย่างไร?
กลิ่นเบื้องต้นจากกลิ่นของมะนาวและเกรพฟรุ้ต เปิดตัวมาอย่างโล่งๆ เย็นๆ จางๆค่ะ สักพักถึงจะเริ่มได้กลิ่นของมวลดอกไม้ อย่างดอกพุด มะลิบางๆ ดอกสวีทพี ที่ให้กลิ่นค่อนข้างแรงแต่ละมุนละไม ราวกับช่อดอกไม้สดที่ยังคงมีใบเขียวๆแซมอยู่ ไม่ได้หวานเลี่ยนจนเกินไป กลิ่นของช่วงกลางค่อนข้างยาวนานค่ะ ราวๆ 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว ในส่วนของกลิ่นฐานนั้น ออกมาไม่เด่นชัดนัก เหมือนเป็นกลิ่นที่ช่วยเสริม
กลิ่นกลางจากเหล่าช่อดอกไม้มากกว่าค่ะ
ใครจะใช้ได้บ้างเนี่ย?
หญิงสาวเลยค่ะ เพราะกลิ่นของดอกไม้ค่อนข้างชัดเจน ได้ตั้งแต่สาววัยรุ่น ไปจนสูงวัยเลย ยิ่งบุคลิกอ่อนหวาน ยิ่งเสริมกันมากขึ้นค่ะ
ทนมั้ยเอ่ย?
บนผิวเราได้ราวๆ 8 – 10 ชั่วโมง ติดทนค่ะ ได้กลิ่นตลอดเวลาเลย
กลิ่นกระจายตัวดีมั้ย?
มาแนวๆติดผิวเสียมากกว่า เป็นกลิ่นที่คนใส่ จะได้กลิ่นมากกว่าคนรอบข้างค่ะ
สรุปสั้นๆ
ดอกไม้ขาว สด จัดอยู่ในช่อบูเก้
Credit ภาพ
ถ่ายเองจ้า