ความเป็นมา
Chloe EDP หรือที่รู้จักกันว่า โคลเอ้ โบว์ครีม เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่สาวๆมักจะมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้นะคะ สังเกตได้จากการแนะนำกลิ่น ก็จะมีชื่อนี้ลอยขึ้นมาเป็นประจำ แถมกลิ่นยัวเป็นเอกลักษณ์ ใส่ไปที่ไหน คนก็มักจะจำได้ค่ะ
กลิ่นนี้วางขายมาเมื่อปี 2008 ผู้ปรุงกลิ่นนี้คือ Amandine Marie และ Michel Almairac โดยให้กลิ่นมาในแบบหญิงสาวหรูหรา มีระดับ ไม่อ่อนวัยเกินไป หรือสูงวันเกินไป ชวนให้นึกถึงความภูมิฐาน แต่ยังคงใช้ได้สำหรับทุกวันค่ะ
Fragrance Notes
Top notes : Peony, Freesia, Litchi
Middle notes : Rose, Lily of the Valley, Gardenia
Base notes : Amber, Virginia Cedar
กลิ่นเป็นอย่างไร?
กลิ่นแรกที่เราจับได้ คือ กลิ่นลิ้นจี่ฉ่ำๆ บวกมากับดอกโบตั๋นและฟรีเซียนุ่มๆ เย็นๆ กลิ่นจะฟุ้งมากในช่วงแรกๆค่ะ หลังจากนั้นจะเริ่มได้กลิ่นกุหลาบ พุดซ้อน ลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์มาในโทนกลิ่นเย็นๆ ตรงกลิ่นนี้ล่ะที่อยู่สักระยะ แล้วเหมือนจะจางหายไป เท่าที่ลองมา เราพบว่ากลิ่นนี้คนใส่ มักจะได้กลิ่นเอื่อยๆ บางๆ หรือแทบจะไม่ได้กลิ่นเลย แต่คนรอบข้างได้กลิ่นค่อนข้างชัดนะคะ ยิ่งอยู่ในห้องแอร์ กลิ่นก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นค่ะ ส่วนกลิ่นยางไม้และสนซีดาร์ มาแบบเนียนๆน้อยๆแต่พองามให้กลิ่นหวานจางๆช่วงท้ายค่ะ
กลิ่นนี้มีตัวคล้ายนะคะ คือ Yves Rocher Moment de Bonheur จะมีความต่างบ้างเล็กน้อย คือ Chloe จะได้กลิ่นลิ้นจี่ฉ่ำๆออกมามากกว่า กลิ่นหวานกว่าหน่อย และทนกว่าค่ะ แต่ในช่วง Middle Note นั้นถือว่าคล้ายกันพอสมควรเลยค่ะ
ใครจะใช้ได้บ้างเนี่ย?
สาวๆได้ทั้งหวานเรียบร้อย หรือว่าสาวเปรี้ยวเว้าผ่าสูง หรือแม้กระทั่งคุณหญิงตีโป่งค่ะ ได้ทุกช่วงวัยเลยทีเดียว หลายๆคนมองว่ากลิ่นนี้ค่อนข้างสูงอายุ แต่เรากลับมองว่าเป็นกลิ่นโทนเรียบร้อย ใช้ง่ายมากกว่าค่ะ
ทนมั้ยเอ่ย?
สำหรับเรา กลิ่นนี้อยู่ได้ราวๆ 6 ชั่วโมงค่ะ
กลิ่นกระจายตัวดีมั้ย?
ฟุ้งมาก กระจายได้ทั่ว ยิ่งอากาศเย็น ยิ่งฟุ้งค่ะ
สรุปสั้นๆ
ดอกกุหลาบโปะแยมลิ้นจี่บนจานคริสตัล
Credit ภาพ
ถ่ายเองจ้า