
ความเป็นมา
Chance ในภาษาฝรั่งเศส แปลว่า โชคดี เปรียบดั่งคลื่นของความสดชื่นมาบรรจบกับกลิ่นดอกไม้และแซมด้วยกลิ่นเครื่องเทศ ราวกับพายุทอร์นาโด ซึ่งเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไม่คาดคิด และแน่นอน พร้อมรับจุมพิตแห่งความโชคดีตลอดเวลา
กลิ่นนี้ปรุงขึ้นในปี 2003 โดย Jacques Polge ด้วยรูปทรงขวดที่แปลกตาไปจากเดิม เพราะขวดของชาแนลจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมคลาสสิค เจ้ากลิ่นนี้ออกมาเพื่อปรับลุคขอแบรนด์ ให้มีความสดใส ซาบซ่ามากขึ้น แต่ยังคงสไตล์ของชาแนลไม้อย่างเหนียวแน่นอยู่เหมือนเดิม
Fragrance Notes
Top Notes : pink pepper, lemon and pine apple
Middle Notes : Hyacinth, jasmine and iris
Base Notes : Amber, patchouli, vetiver and white musk
กลิ่นเป็นอย่างไร?
วูบแรกที่ฉีดลงบนตัว เราได้กลิ่นของใบพิมเสนผสมมากับมะนาว กลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของแบรนด์ชาแนลที่เราสัมผัสได้จากกลิ่นอื่นๆ (คำแรกที่อุทานในใจ “กลิ่นชาแน๊ล ชาแนลอ่ะค่ะ) ตรงกลิ่นเริ่มนี้มีความเผ็ดซ่าน้อยๆจากพริกไทยสีชมพู ส่วนกลิ่นของสับประรดค่อนข้างน้อยมาก โดนกลิ่นของมะนาวกลบไปเสียหมด ช่วงต้นกลิ่นนี้จะอยู่ราวๆ 10 -15 นาทีนะคะ หลังจากนั้นจะเริ่มได้กลิ่นของมะลิ มาในโทนที่อบอุ่น โดยยังคงมีกลิ่นมะนาวเจือเยาๆอยู่ด้านหลัง (คือมะนาวแน่นมากจากต้นกลิ่นค่ะ) กลิ่นของไอริสยังพอมีบ้างแต่ไม่เดนนัก และไฮยาซินธ์แทบไม่มีบทบาทเลย จนถึงปลายกลิ่นที่แอมเบอร์ เริ่มมาช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับกลิ่นมากขึ้น หญ้าแฝกและมัสก์กลับเป็นรอง เพราะท้ายกลิ่นก็ยังคงเป็นใบพิมเสนเหมือนเดิมค่ะ
ใครจะใช้ได้บ้างเนี่ย?
สาววัยทำงานเป็นต้นไปค่ะ กลิ่นดูภูมิฐาน ได้ทั้งทำงาน ดินเนอร์ พอช่วงกลางคืนเน้นจำนวนสเปรย์ให้มากขึ้นหน่อยก็ใช้ได้แล้วค่ะ
ทนมั้ยเอ่ย?
อยากจะบอกว่าทนมาก สำหรับผิวเรา อยู่ได้ 12 ชั่วโมง กลิ่นไม่มีจางหาย ยิ่งเหงื่อออก กลิ่นยิ่งแรงขึ้นค่ะ
กลิ่นกระจายตัวดีมั้ย?
ฟุ้งสุดๆ ตีขึ้นใส่คนใส่เป็นระยะแบบหนักหน่วงค่ะ
สรุปสั้นๆ
น้องสาวคนสุดท้อง รองจาก No.5 , และ Coco Mademoiselle แต่ฤทธิ์ไม่เบาเลยค่ะ
Credit ภาพ
ถ่ายเองจ้า