ในไลน์นี้ ปัจจุบัน เวปอย่างเป็นทางการ จะมีทั้งหมด 4 รุ่นค่ะ คือ Baiser vole EDP, Baiser vole essence, Baiser vole Lys rose และ ตัวใหม่ล่าสุด  FRAÎCHE BAISER VOLÉ EAU DE PARFUM

ของเราที่มี จะต่างออกไป ตรงที่เรามี Baiser vole EDT เข้ามา เราเข้าใจว่าขณะนี้หาค่อนข้างยากแล้วค่ะ
ตัวแรกเลยนะคะ 
Cartier Baiser Vole EDP 

กลิ่นแรกของ Baiser vole ซึ่งชื่อนี้ มีความหมายว่า ขโมยจูบค่ะ (แปลแบบบ้านๆเลย) ด้วยแนวคิดที่นึกถึงความหรูหรา และความงามเฉิดฉายแบบสาวงามอันแสนหวาน จึงมาในรูปแบบของกลิ่นที่เป็นดอกไม้ สดชื่น และนุ่มนวล รังสรรค์โดย Mathilde Laurent
Top Notes : Lily, Citruses
Middle Note : Lily
Base Notes : Green Lily, Green Note
รูปทรงขวดมาในแนวเรียบง่าย แต่หรูหรา ฝาขวดเป็นแบบฟลิบ เปิดมาจะเจอหัวสเปรย์แบบกดเป็นรูปสลักยี่ห้อคาร์เทียร์ไว้ค่ะ
หลังจากที่ได้ลองกลิ่น สำหรับเราเองซึ่งเป็นแฟนคลับของดอกลิลลี่ตัวยง ต้องบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังค่ะ กลิ่นที่เปิดขึ้นมาอย่างดอกลิลลี่ขาวสะอาด ราวกับดมจากช่อดอกไม้จริงๆ ที่มีกลิ่นของก้าน และใบตามเข้ามา อีกทั้งยังติดทนนาน ถึงนานมาก ถือว่าเป็นน้ำหอมอีกขวนที่สาวกกลิ่นแนวดอกไม้ไม่ควรพลาดจริงๆค่ะ

หลังจากนั้นไม่นาน คาร์เทียร์ก็ได้ออก Baiser vole EDT ออกมา รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป คือ สีน้ำหอมเป็นสีเขียว และฝากด เป็นสีเงินค่ะ จากเดิมที่รุ่น EDP เป็นน้ำสีเหลืองและฝากดเป็นสีทอง ในเวอร์ชัน EDT นี้ ไปปรับกลิ่นให้สดชื่นมากขึ้น ด้วยแนวคิดที่นึกถึงดอกลิลลี่แรกแย้มและเจิดจรัสในยามแรกรุ่น

Baiser Vole Eau de Toilette

Top Notes : Lily
Middle Note : Lily
Base Notes : Green Lily, Green Note

จากที่เราลองใช้ดู พบว่ารุ่น EDT ให้ความรู้สึกที่โปร่ง และเย็นกว่ารุ่น EDP ใครที่มองว่ารุ่นเดิมนั้น กลิ่นแน่นไป หรือหวานไป เราว่ารุ่น EDT นี่แหละ ที่ทำให้จะหลุมรักได้เลยค่ะ กลิ่นที่ออกมา ยังคงเป็นลิลลี่เหมือนเคย แต่มาในช่อลิลลี่ที่เพิ่งออกมาจากห้องเย็นหลังจากที่พรมน้ำไว้ ซึ่งกลิ่นสบายจมูกและหอมฟุ้งมากค่ะ กลิ่นอยู่ได้ทนไม่แพ้รุ่นพี่ นานราวๆ 8 ชั่วโมงได้ค่ะ

และในปีถัดมาBaiser Vole ก็ได้ออกตัวใหม่ เสมือนเปิดตัวพี่สาวคนโตของตระกูล Baise Vole Essence ด้วยกลิ่นของลิลลี่ที่บานอย่างเต็มที่ และแซมด้วยกลิ่นหอม หวาน ละมุนจากวานิลลา 

รุ่น Essence นี้ ขนาดจะต่างไปจากเดิมนะคะ รุ่นอื่นๆ ปริมาณอยู่ที่ 100 ml. แต่รุ่น essence นี้ ปริมาณอยู่ที่ 80 ml. ข้างนอกดูขนาดเท่ากัน แต่ว่าก้นขวดจะเว้าสูงกว่ารุ่นปกตินะคะ ทั้งน้ำหอมข้างในและฝาขวด มาในโทนสีเหลืองทอง ทำให้ดูแพง และเลอค่ากว่ารุ่นอื่นๆค่ะ

Notes : Lily, Bourbon Vanilla
กลิ่นแรกที่สัมผัสได้ ยังคงเป็นดอกลิลลี่เหมือนเดิมค่ะ แต่ว่าให้ความรู้สึกที่นุ่มลึกมากขึ้น ความเขียวสดจากรุ่น EDP และ EDT หายไป แต่กลิ่นของกลีบดอกลิลลี่ชัดมากขึ้น อีกทั้งได้ความหวานจากวานิลลาเข้ามาเสริมสร้างความยวนใจเพิ่มมากขึ้นค่ะ สำหรับตัวเรา ความคงทนได้มากกว่า 8 ชั่วโมง หอมข้ามคืนกันเลยทีเดียว

ในปีถัดมา คาร์เทียร์ก็ยังคงแตกไลน์มา เราเดาว่า คงขายดีมากนะคะ ถึงออกมาเรื่อยๆ มาคราวนี้ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสีขวดเป็น Baiser Vole Lys Rose ซึ่งผู้ปรุงน้ำหอมยังคงเป็น Mathilde Laurent คนเดิมค่ะ มาในแนวคิดของดอกลิลลี่สีชมพู และเจือกลิ่นเปรี้ยวนิดๆของราสพ์เบอร์รี่ ซึ่งช่วยลดเบรกความนุ่มของดอกลิลลี่ดั้งเดิม แล้วบวกความสดใสของราสพ์เบอร์รี ทำให้ดุอ่อนวัย และสดชื่นขึ้นค่ะ

Notes : Lily, Raspberry

รูปขวดสีชมพูแปลกตา ฝากดสีเงิน เข้ากันได้ดีอย่างน่าแปลกใจ กลิ่นเปิดนี่คล้ายกับตัว EDT แต่มีกลิ่นออกผลไม้นิดๆ ซึ่งตัว EDT นั้นจะเป็นกลิ่นลิลลี่อย่างเดียวเลยค่ะ ความฟุ้งกระจาย ทำได้ดีในยามเริ่มต้น แล้วกลิ่นก็ค่อยๆจางไป ตัวนี้จะอยู่ทนน้อยกว่ารุ่นอื่นๆนะคะ เหมาะกับช่วงอากาศร้อนๆ ช่วยเรียกความสดชื่นได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

จริงๆแล้วในสี่รุ่น ตัวเราเองเลือกไม่ได้นะคะ ว่าชอบรุ่นไหนมากที่สุด แต่ยกให้ทั้งกลุ่มนี้เป็นอีกกลิ่นในดวงใจเลยค่ะ