เราว่าหลายๆคนอาจจะเป็นเหมือนกับเรา ที่บางครั้งดมน้ำหอมบางขวดครั้งแรก รู้สึกว่าไม่ชอบเลย แต่แล้วก็มีอะไรสักอย่างมาดลใจให้หันไปลองอีกครั้ง แล้วหลังจากนั้น กลับตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้นอีกเลย

น้ำหอมขวดนี้ ที่มาที่ไปก็เป็นแบบข้างต้นนั่นแหละค่ะ เราชอบลักษณะขวดตั้งแต่เริ่มวางขายในปี 2008 มองรูปโฆษณาแบบไม่มีเบื่อเลย เจอรูปบ่นกับตัวเองตลอดแถมพูดเข้าข้างตัวเองอีกว่า ขวดนี้มันเกิดมาเพื่อเราจริงๆ แต่เหลือบมองราคาแล้ว ก็หมุนตัวกลับตลอดเลยค่ะ กระทั่งวันนึงไปงานเซลล์น้ำหอมที่ตึกอัมรินทร์ ได้มีโอกาสทดลองกลิ่นแล้ว พบว่ากลิ่นไม่เหมาะกับตัวเราเลย สุดท้ายก็คลาดกันไป จนเมื่อสองเดือนก่อน เดินเล่นในห้างอยู่ดีๆ สายตาก็ไปพบกับเจ้าขวดนี้อีกรอบ เลยตัดสินใจเข้าไปทดลองกลิ่น ครั้งนี้ไม่ได้ฉีดใส่กระดาษแล้ว ขอฉีดลงที่แขนเลยค่ะ พอกลับมาที่บ้านแล้ว แทบอยากจะนั่งรถกลับไปซื้อทันทีเลย กลิ่นหอม หรู ดูมีระดับมากเลยค่ะ แต่เนื่องจากทรัพย์ในกระเป๋าไม่อำนวย เลยต้องพับโครงการไว้ก่อน แต่ก็ยังพร่ำเพ้อถึงตลอดเวลา จนวันหนึ่งฟ้าก็ประทานให้พ่อค้าเจ้าประจำใน FB เอามาขาย ในราคาที่เอื้อมถึง รีบซื้อโดยทันที พอของมาส่งถึงมือปุ๊บ ก็รีบฉีดปั๊บให้หายอยากเลยค่ะ

แนวกลิ่นมาแบบ วูดดี้-ฟลอร่า ดังนั้น ใครชอบกลิ่นผลไม้ (รวมถึงสามีของเรา) คงต้องบ๊าย บายค่ะ นิยามของน้ำหอมกลิ่นนี้มาแนวผสมระหว่าง น้ำหอมของผู้ชาย และผู้หญิง ดังนั้นกลิ่นจึงไม่ออกไปทางหญิงสาวซักเท่าไหร่ค่ะ และโจทย์ของกลิ่นนี้ ผู้ปรุงต้องการให้ได้กลิ่นมะลิที่ต่างไปจากเดิม โดยที่กลิ่นมะลิจะอยู่ในช่วง Middle Note เป็นศูนย์กลางของส่วนประกอบอื่นๆ และให้ความรู้สึกมืดหม่นด้วยกลิ่นหรูหราจากไม้ราคาแพง

ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า Jasmine Noir เพราะฉะนั้นกลิ่นมะลิเลยไม่ได้มาแบบธรรมดาเหมือนกับกลิ่นมะลิของยี่ห้ออื่นๆ กลิ่นเริ่มต้นที่สัมผัสได้ กลับกลายเป็นกลิ่นของใบไม้เขียวๆ และดอกพุดซ้อน เหมือนกับเราเดินผ่านต้นพุดซ้อนที่ได้กลิ่นมาพร้อมกับก้านและใบ พอผ่านมาแล้วถึงจะพบกับกลิ่นของดอกมะลิ ที่ไม่ได้เป็นมะลิแบบสดชื่น แต่กลับกลายว่าซ่อนกลิ่นของอัลมอนด์มาด้วย แล้วกลิ่นของไม้หอม ถั่วตองกา และชะเอม ก็ทำให้กลิ่นของดอกมะลิหม่นลงไปอีก เรารู้สึกว่ากลิ่นติดผิว ให้สัมผัสของกลิ่นถั่วอบนุ่มๆมากกว่ากลิ่นดอกไม้ซะอีก

หากเทียบว่า Jasmin & Mint ของ โจมาโลน คือมะลิสดใสในยามกลางวัน Jasmin Noir ขวดนี้คือมะลิกลางคืนแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเราเองก็ชอบมะลิทั้งสองแบบนะคะ แต่ว่า Jasmin Noir ขวดนี้ กลิ่นติดทนมากกว่า พอใช้แล้วมีคนทักว่าหอม แสดงว่ากลิ่นเข้ากับเคมีของเราได้ดีเลยทีเดียว เวลาไปทำงาน นึกอะไรไม่ออก ก็ลงเอยที่ขวดนี้ตลอดเลยค่ะ กลายเป็นกลิ่นประจำตัวไปอยู่ช่วงนึงเลยทีเดียว ได้ตั้งแต่งานเช้าจนถึงงานกลางคืนเลยค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

Perfume Pyramid

Top Notes : Gardenia, Green Notes

Middle Notes : Almond, Jasmine,

Base Notes : Tonka Bean, Licorice, Amber, Patchouli, Musk, Precious wood

ความคงทน อยู่บนผิวเรา 8 – 12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล)

การกระจายกลิ่น ปานกลางถึงบริเวณกว้าง