เมื่อ gift1801 ทำ DIY Facial Oil สวยง่ายๆ ด้วยน้ำมันจากธรรมชาติจ้ะ

วันนี้ไม่มีการเปิดถุง ไม่มีการทาครีม เพราะวันนี้ดิฉันจะมาผสมน้ำมันทาหน้าอย่างง่ายๆให้คุณผู้ชมดูกันค่ะ

จากความเดิมตอนก่อนๆ หลายๆตอน จะเห็นได้ว่าสาวๆหลายๆคน (รวมถึงดิฉันด้วย) มักจะเสียเงินซื้อครีมทาหน้าในราคาที่แพงแสนแพง ทั้งๆที่เราแงะ แกะ แคะ ดู ส่วนประกอบข้างๆแล้วพบว่าสิ่งที่เราทาๆกันเข้าไปเนี่ย ส่วนประกอบหลักมาจากน้ำ!! และน้ำหอม!! ค่อยตลฃบท้ายด้วยสารบำรุงอันน้อยนิด (ถ้าใครเคยทำสกินแคร์ใช้เอง จะทราบถึงราคาต้นทุนอันถูกแสนถูกเลยทีเดียว)

แรงบันดาลใจก็มาจากกระทู้ในห้องแป้งเนี่ยแหละค่ะ อ่านไปมาก็เลยเกิดแรงฮึด ไปตามหาของมาใช้บ้าง ส่วนสูตรการผสมก็หาเอาจากบล็อกเกอร์ต่างชาติ ซึ่งเค้านิยมทำกันอย่างแพร่หลาย หาได้ไม่ยากค่ะ บางเวปที่มีการขายส่วนผสมต่างๆก็จะมีสรรพคุณและสูตรต่างๆให้อีก ผลเลยได้มาเป็นเช่นนี้

บางคนสงสัยค่ะว่า หน้ามันแล้วทาน้ำมันได้หรือเปล่า??

จากการทดลองใช้มาสองเดือน พบว่าการทาน้ำมันบนใบหน้าในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยลดน้ำมันบนผิวหน้า เนื่องจากการปรับสมดุลของผิวหน้า

ปล. ก็อย่าไปทาแบบโบกนะคะคุณ สี่ห้าหยด นวดๆทั่วใบหน้าก็พอ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนใบหน้าอีกด้วยค่ะ

วัตถุดิบจาก iherb ค่ะ ซื้อตอนช่วงโปรส่งฟรี (รู้เลยสิ ว่ากระทู้นี้ดองไว้นานมาก ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ)

ของที่ดิฉันใช้ในวันนี้ มี

Rose Hip Seed oil

Grapeseed Oil

Apricot Oil

Sweet Almond oil และ

Essentail oil กลิ่น Orange

อุปกรณ์ที่สำคัญอีกอย่าง คือ ขวดบรรจุน้ำมันที่ผสมแล้ว (ดิฉํนใช้ขวดเก่าจากมาดามเฮง เพราะสีชา สามารถกันแสงได้ในระดับนึงค่ะ ก่อนใช้ก็นำไปล้าง ลวกน้ำร้อน ผึ่งให้แห้ง ก่อนนะคะ เพื่อความสะอาด)

เริ่มกันเลยดีกว่า

สูตรพื้นฐานจะมีน้ำมันสำหรับเป็นเบส Base Carrier Oils ไว้สำหรับเป็นตัวทำละลายน้ำมันที่จะใช้บำรุงผิว บางครั้งน้ำมันที่เราใช้อาจจะมีความเข้มข้นมากเกินไป ซึ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อผิวหน้าเราค่ะ

แต่น้ำมันพื้นฐานไม่ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์เสียทีเดียว ถ้าเลือกใช้ถูกประเภท ก็สามารถช่วยบำรุงผิวให้ดีขึ้นได้อีกค่ะ

พื้นผิวดิฉันเองเป็นผิวผสม บางครั้งก็ขาดน้ำ บางครั้งก็มันแบบกะไม่ถูก ดิฉันเลยเลือกเจ้า Sweet 

Almond Oil น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ เป็นน้ำมันพื้นฐานตัวที่ หนึ่ง

สรรพคุณ : เป็น Medium Oil ที่ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป เป็นที่นิยมในการทำน้ำมันนวดหน้าและนวดตัว ราคาไม่แพง อ่อนโยนกับทุกสภาพผิว ยกเว้นผู้ที่แพ้พืชตระกูลถั่ว ซึมซาบได้รวดเร็ว ทาได้ทั้งใบหน้าและรอบดวงตา

อ่ะ ใส่ไปประมาณ 30% ของขวด กะประมาณเอาค่ะ ดิฉันไม่ได้ชั่ง ตวง วัด อะไรมากมาย

ต่อมา Base Carrier oil ตัวที่สอง Apricot Oil น้ำมันจากเมล็ดแอปปริอท (จริงๆคือ Apicot Kernal Oil แต่ฉลากเขียนแค่ Apricot Oil นะคะ)

คุณสมบัติที่เด่นๆเลย คือเหมาะสำหรับผิวบอบบาง ไม่เหนียวเหนะหนะซึมเข้าผิวได้รวดเร็ว มีกลิ่นหอมเล็กน้อย มี oleic acid and linoleic acid ค่อนข้างสูง

คุณสมบัติขนาดนี้ ใส่ไปในขวดเลยค่ะ

มาถึง Base Carrier Oil ตัวที่สุดท้าย Grapeseed Oil น้ำมันเมล็ดองุ่น

เป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์อีกหนึ่งตัว คุณสมบัติที่เด่นเลยคือ เป็น Light Oil สามารถซึมเข้าผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว เหมาะมากสำหรับคนผิวมันค่ะ และมี linoleic acid ที่สูงกว่าน้ำมันอีกหลายๆตัว อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นได้อีก และคุณสมบัติที่เด่นอีกข้อ คือ ช่วยทำให้ผิวพรรณกระชับขึ้น

อ่ะ ใส่ไปอีก อันนี้เยอะหน่อย อยากให้ผิวเฟิร์ม 

ช่วงนี้ทยอยใส่น้ำมันแต่ละตัว อย่าลิมปิดฝาขวดแล้วเขย่าให้เข้ากันนะคะ

พอเราได้น้ำมันพื้นฐานมาแล้ว เกิดไม่พอใจในสรรพคุณ อยากได้ซุปเปอร์สกินแคร์ ครอบทั่วจักวาลใบหน้า เพื่อความเด้ง ใส เนียน ลดเหี่ยว เราก็ไปหาน้ำมันสรรพคุณพิเศษมาเพิ่มเติม 

ดิฉันประทับใจสรรพคุณของ Rose Hip Oil จากรีวิวทั้งคนไทยและเทศ ว่ากันว่า ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ชะลอผิวให้อ่อนวัย ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ใช้บรรเทาผิวหน้าที่มีรอยแผลเป็น เหี่ยวย่น หลุมสิว เนื้อลายอันเนื่องมาจากการตั้งครรภ์ บรรเทาอาการผิวไหม้แดด ผิวแห้งมากหรือผิวขาดน้ำได้ สาวๆในพันทิพมักใช้ลดริ้วรอยใต้ตากัน แต่เป็นน้ำมันที่ค่อนข้างหนัก ใช้ทาเลยโดยไม่ผสมอาจจะเกิดการอุดตันได้ค่ะ ส่วนกลิ่นนี่ บรรยายไม่ถูกเลย 

ใส่ไปจนกว่าขวดจะเต็ม ท่องไว้ เดี๋ยวสวย เดี๋ยวสวย กร๊าก….กก

เต็มขวดแล้วค่ะ อย่าลิมเขย่าให้เข้ากันอีกครั้ง ….. แต่ยังไม่ถึงท้ายสุดค่ะ

จริงอยู่ว่าเราได้น้ำมันธรรมชาติมาละเลงที่หน้าแล้ว แต่กลิ่นมัน ไม่ใช่อ่ะ มันเหม็นหืนอ่ะ มันยังไม่โดนอ่ะ

เลยได้เจ้าตัวนี้มาช่วย 

Essentail Oil – Orange กลิ่นส้ม ใส่ไปซักยี่สิบหยด หอมกำลังดี


แต่ถ้าใครทนกลิ่นได้ อยากใช้แบบดั้งเดิม ก็ไม่ขัดศรัทธานะคะ

อ่อ คำเตือน เจ้าEssential ตระกูล Citrus (ส้ม,มะนาว) ไวต่อแสงนะคะ ไม่ควรใช้ในเวลากลางวัน แต่ดิฉันใช้น้ำมันทาหน้าตอนกลางคืนอยู่แล้ว เลยไม่ได้กังวลอะไรมากมายค่ะ

หลังจากหยดไปแล้ว ก็เขย่าให้เข้ากันดีนะคะ แล้วปิดฝา 

อย่าเพิ่งรีบร้อนใช้ทันที ทิ้งไว้อุณหภูมิห้องซักหนึ่งคืน เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดีก่อน แล้วค่อยนำมาใช้นะคะ

เพื่อความสบายใจ เขียนไว้ข้างขวดหน่อย ว่าใส่อะไรไปบ้าง และทำไว้วันไหน

แนะนำว่า ไม่ต้องทำทิ้งไว้เยอะแยะนะคะ เพราะว่าเราไม่ได้ใส่สารกันเสีย ทิ้งไว้นานเดี๋ยวหมดอายุไปซะก่อน จะพาลไม่อยากใช้ซะ

ผลทดลองหลังจากการใช้

สัปดาห์แรก ดิฉันยังไม่ชิน รู้สึกว่าผิวหน้ากระด้างต่างไปจากการทาครีม แต่สิวไม่มีขึ้นมานะคะ

สัปดาห์ที่สอง เริ่มปรับตัวได้ สังเกตว่าหน้านุ่มและชุ่มชื่นขึ้น ส่วนริ้วรอยเล็กน้อยค่อยๆจางลง

หลังจากครบเดือน ผิวหน้าไม่แห้งลอกเหมือนผิวขาดน้ำ แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางติดทนมากขึ้น แต่หน้าไม่ได้ขาวใสเหมือนใช้ครีมที่ซื้อมานะคะ

สรุปผลที่ได้ ชอบมาก ราคาถูก แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรค่ะ

เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปก่อนใช้ หลังใช้เอาไว้ค่ะ เพราะรีวิวอันนี้ทำไว้ตั้งแต่สิงหา ปีที่แล้ว แป่ว!!

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s